ช่วงนี้รวมตัวกันลำบากหน่อย เราอาจจะต้องอยู่ห่างไกลกันประมาณ 1 เมตร งั้นเรามารักษา Social Distance ด้วยการเกมเล่นคนเดียวไปพลางๆ ก่อน
เรามาดูบอร์ดเกมที่เล่นคนเดียวแบบเพลินๆ ระหว่างรอรวมตัวกับเพื่อนๆ ใหม่อีกครั้ง มาดูกันว่ามีเกมอะไรมาแนะนำกันบ้าง
#ยิ้มสู้โควิค
“Friday: Solo Adventure Game เกมติดเกาะสุดฮิต ที่ไม่ว่าจะเล่นกี่ครั้งก็ลุ้น ปรับระดับความยากง่ายได้ ใช้พื้นที่ไม่เยอะ เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาว่างน้อย ประมาณ 20 นาที”
Friday เป็นเกมส์การผจญภัยที่เล่นคนเดียว มีเพียงคุณเท่านั้นที่จะชนะเกมนี้ได้ เราจะต้องช่วย Robinson Crusoe ผู้ที่บังเอิญมาติดอยู่บนเกาะร้าง คุณและ Robinson ต้องร่วมกันต่อสู้กับเหตุการณ์ต่างๆมากมาย
ในตอนเริ่มต้น Robinsonผู้ โชคร้ายนั้นยังไม่ค่อยมีความทักษะการเอาตัวรอดซักเท่าไหร่นัก ซึ่งในแต่ละการเผชิญหน้ากับอุปสรรค เราจะต้องฝึกเค้าให้เอาตัวรอด แต่ทว่าบางครั้งการยอมแพ้ก็อาจเป็นสิ่งที่ช่วยให้เขาออกจากเหตุการณ์ร้ายๆ ได้ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามการใช้ชีวิตบนเกาะนั้นมันไม่ง่ายเลย เพราะในระหว่างที่ Robinson สะสมทักษะการเอาชีวิตรอด อย่าลืมว่าเขาเริ่มแก่ลงและเครียดมากขึ้นอีกด้วย
ภายในเกม Robinson จะถูกนำเสนอในรูปแบบของการ์ดพฤติกรรมที่หลากหลาย ด้วยการช่วยเหลือของเรา เราจะพัฒนากองการ์ดทักษะของเขาผ่านการเผชิญหน้ากับอุปสรรคต่างๆ
ซึ่งวิธีการเล่นนั้นง่ายมาก ในหนึ่งตาเราทำการเปิดการ์ดอุปสรรคสองใบ และเลือกหนึ่งใบเพื่อเผชิญหน้า หลังจากให้เราจะเป็นการ์ดทักษะการเอาตัวรอดของ Robinson หากตัวเลขของทักษะมากกว่าการ์ดอุปสรรคจะถือว่า Robinson สามารถก้าวผ่านอุปสรรคนั้นมาได้และจะได้การ์ดนั้นมาเป็นทักษะเพิ่มในกองด้วย แต่หากพ่ายแพ้เราสามารถกินอาหารเพื่อเพิ่มพละกำลังและได้จั่วการ์ดเพิ่ม สุดท้ายเมื่อ Robinson เริ่มอยู่บนเกาะได้สักพักโจรสลัดจะมาเก็บสมบัติที่เกาะนี้ เราจะต้องช่วยให้เขาต่อสู้กับกลุ่มโจรสลัดและขโมยเรือเพื่อกลับบ้าน
ตัวเกมเล่นง่าย เข้าใจง่ายและสามารถอินไปกับการเอาชีวิตรอดของ Robinson ได้อย่างดีเยี่ยม เป็นอีกหนึ่งเกมที่ทั้งคลาสสิคและสนุก ใครที่อยากลองเล่นแนะนำค่ะ
เกม Solo เล่นได้คนเดียว
แนะนำตั้งแต่อายุ 8 ปีขึ้นไป
แปะลิงค์ในคอมเม้นท์
https://www.youtube.com/watch?v=YEYh1aea01M
2. Tiny Towns
“Tiny Towns เกมที่กำลังมาแรงขณะนี้ 6 คนก็ได้ คนเดียวก็สนุกไปอีกแบบ กับระบบการขานทรัพยาการแบบ Bingo ที่หลายคนคุ้นเคย ผสมกับการมองภาพแบบมิติสัมพันธ์เพื่อสร้างตึกให้ได้ตามแบบ บอกเลยว่าสนุกคนนาทีสุดท้าย”
เราคือนายกเทศมนตรีในเมืองจิ๋วที่อยู่ในป่าใหญ่พร้อมกับพวกเหล่าสัตว์น้อยตัวเล็กๆ ที่ซ่อนตัวจากนักล่า แค่ธีมก็กินขาดแล้วสำหรับเกมนี้ ตัวเกมเล่นได้สูงสุดตั้ง 6 คน โดยเรานั้นมีหน้าที่สร้างเมืองเล็กๆ นี้ให้ยิ่งใหญ่และสวยงาม วิธีเล่นเกมนี้นั้นเราจะได้บอร์ดผู้เล่นเป็นตาราง 4x4 เพื่อวางทรัพยากรต่างๆในช่องพวกนั้น โดยเราจะผลัดกันประกาศทรัพยากรที่เราอยากได้และคนอื่นนั้นก็ต้องหยิบตามที่เราประกาศด้วยเช่นกัน
การวางทรัพยากรในช่องแต่ละช่องนั้นจะส่งผลกับสิ่งก่อสร้างที่เราอยากสร้างและทุกๆ สิ่งอาคารนั้นมีวิธีคิดคะแนนเป็นของตัวเอง เช่น บ่อน้ำ หากวางบ่อน้ำใกล้กับบ้านจะได้หนึ่งคะแนนเป็นต้น การวางทรัพยากรนั้นไม่มีข้อห้ามมีแต่ข้อควรระวังคือตอนจบเกมทรัพยากรที่ไม่ได้ใช้จะลบหนึ่งคะแนน
เกมจบเมื่อทุกคนไม่สามารถสร้างหรือไม่อยากสร้างอาคารแล้ว เราจะเริ่มนับคะแนนและใครที่คะแนนเยอะที่สุดก็เป็นผู้ชนะ ตัวเกมค่อนข้างง่ายแต่วิธีชนะยากและท้าทายสุดๆ
เล่นหลายคนว่าสนุกแล้ว จะมีใครคาดคิดว่าเกมนี้เล่นคนเดียวก็สนุกไปอีกแบบ …
รูปแบบเกมแตกต่างกันนิดหน่อยตรงที่เราจะได้การ์ดทรัพยากร 3 ใบ จากกองจั่วหลังจากนั้นให้เลือก 1 ใบและเปิดใบใหม่มาแทนที่ วิธีสร้างอาคารบ้านเรือนยังคงรูปแบบเดิม โดยเรานั้นจะต้องแข่งกับตัวเองเพื่อเก็บคะแนนให้ได้เยอะที่สุด เล่นคนเดียวก็สนุกเล่นหลายคนก็สนุกขึ้นไปอีก
ใครที่ชอบเกมที่เรียนรู้ไม่นานนัก แต่คิดหลายตลบมาลองเกมนี้ได้เลย
เกมเล่นได้ 1-6 คน
เกมแนะนำตั้งแต่อายุ 12 ปีขึ้นไป
แปะลิงค์ในคอมเม้นท์
https://www.youtube.com/watch?v=-PaZgZSZZmg&t=46s
3. Hostage Negotiator Crime Wave
"ใจเย็นๆนะครับ คุณต้องการอะไรบอกพวกเราได้นะ
ผะ...ผมแค่ต้องการให้หมอช่วยรักษาลูกสาวผม"
นี่เรื่องราวเหตุผลของการก่อเหตุในเกม Hostage Negotiator Crime Wave ซึ่งภาคนี้เป็นตัวเสริมที่สามารถเล่นได้โดยไม่ต้องมีภาคหลัก ในแต่ละตาจะจำลองการพูดคุยระหว่างเราและผู้ก่อการร้าย สิ่งที่ทำให้เกมนี้ดีเยี่ยมเลยก็คือการที่กติกาเล่นง่ายไม่ซับซ้อน และสามารถอินกับเนื้อเรื่องของตัวละครผู้ก่อการร้าย รู้ถึงเหตุผล รู้ถึงสาเหตุและบางครั้งมันก็กระชากความดราม่าได้เหมือนกัน
ภาคนี้สามารถเล่นรวมกับภาคอื่นๆได้ด้วย และสิ่งที่เลิศที่สุดคือกล่องที่ออกแบบให้สามารถเก็บการ์ดของภาคเสริมได้หมด
... เอาหละ พูดมาซะยาวเข้าเรื่องระบบเกมกันบ้าง เกมนี้ใช้ระบบเล่นการ์ดและทอยลูกเต๋าเพื่อเพิ่มค่าทักษะการเจรจาหรือลดค่าความเครียดของผู้ก่อการร้ายและเจรจาปล่อยตัวประกัน
โดยเกมจะแบ่งเป็น 3 ขั้นตอน เริ่มจาก
• Conversation Phase: ซึ่งคือการเล่นการ์ดการเจรจาและทอยเต๋าเพื่อดูว่าเราสามารถคุยกับผู้ก่อการร้ายได้สำเร็จหรือไม่
• Spend Phase: คือการจ่ายแต้มทักษะการเจรจาเพื่อซื้อการ์ดใบใหม่ๆ
• ขั้นตอนสุดท้าย Terror Phase: จั่วการ์ดและรับผลของการ์ดใบนั้น แต่มันก็เป็นการ์ดที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก โดยยิ่งความเครียดเพิ่มมากถึงขีดสุด
ปัง!! ตัวประกันจะตายหนึ่งคนและหากตัวประกันตายจนหมด คุณแพ้!
สุดท้ายด้วยความท้าทายการเล่นของเราทำให้เกมนี้ติดหนึ่งในเกมที่เล่นคนเดียวที่ดีที่ควรลอง
เกม Solo เล่นคนเดียว
แนะนำตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไป
4. Chronicles of Crime
“Chronicles of Crime เกมแนวสืบสวนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในขณะนี้ ที่มาพร้อมกับการใช้เทคโนโลยี VR ได้อย่างลงตัวที่สุด"
เมื่อพูดถึงเกมกระดานเราก็จะนึกถึงการเดินตัวละคร ทอยลูกเต๋า ใครจะนึกว่าเราจะได้เล่นเกมโดยใช้ VR (Virtual Reality) เล่นเกมกระดานได้ด้วย ในเกมเราได้รับบทเป็นตำรวจอังกฤษที่สืบคดีต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคดีฆาตกรรม ของหายต่างๆนานา ซึ่งเกมนี้เราไม่มีทางแพ้ มีแค่เราสามารถคลี่คลายคดีได้ดีแค่ไหน หาหลักฐานครบไหม เราสามารถพูดคุยกับพนักงานภายในสถานีตำรวจได้ แต่ละคนจะเก่งแตกต่างกันไป บางคนเก่งเรื่องเทคโนโลยี บางคนเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่คอยตรวจสอบหลักฐานต่างๆ ที่เราพบเจอเป็นต้น
เมื่อพูดถึงหลักฐานแล้ว เกมนี้เราจะได้เข้าไปสำรวจในที่เกิดเหตุโดยการใช้มือถือของเรา เราสามารถหันซ้ายหันขวามองไปรอบๆ เพื่อหาหลักฐานได้ และยิ่งเราใช้คู่กับแว่น VR ที่เป็นตัวเสริมของเกมยิ่งทำให้มันเสมือนเราไปอยู่ในนั้นจริงๆ ยิ่งเราพูดคุยกับผู้ต้องสงสัยหรือเดินทางไปที่ต่างๆ เรายิ่งเสียเวลา เวลาในเกมนี้มีผลต้องคะแนนที่เราจะได้เมื่อปิดคดีและรวมถึงบทสนทนาของตัวละครที่เราพูดคุยด้วยเช่นกัน
เรียกว่าเก็บรายละเอียดดีสุดๆ ซึ่งในกล่องนี้มีคดีมาให้เราเล่นถึงสามด่านด้วยกัน รวมแล้วก็หลายชั่วโมงอยู่ แต่ถ้าหากยังไม่จุใจสามารถซื้อเพิ่มได้อีกภายในแอพ เล่นกันยาวๆ
ตัวเกมใช้ระบบการสแกน QR Code มาช่วยในเรื่องของการพูดคุยกับตัวละครภายในเกม รวมถึงสถานที่ต่างๆ ที่เราอยากจะเดินทางไปสำรวจใครที่ชอบเกมแนวสืบสวน เนื้อเรื่องอย่างกับหนังฮอลลีวูดหรือใครที่ชอบอ่านนิยาย เกมนี้คือเกมของคุณแน่นอน
เกมเล่นได้ 1-4 คน
แนะนำตั้งแต่อายุ 14 ปีขึ้นไป
5.One Deck Dungeon: Forest of Shadows
“เกมสไตล์บุกดันเจี้ยนที่เล่นคนเดียวมันส์กว่าเล่น 2 คน มีดวงเข้ามาเกี่ยวพอหอมปากหอมคอ แปลกใหม่ทุกครั้งที่เล่นและยากทุกครั้งที่จะเอาชีวิตรอด"
นี่คือวลีเด็ดที่เรายกให้เกมๆนี้ ด้วยรูปแบบเกมที่ตะลุยดันเจี้ยนที่สามารถเล่นได้ 1 - 2 คน ด้วยตัวละครที่เราสามารถเลือกมาเล่นได้ ซึ่งแต่ละตัวละครมีความสามารถไม่เหมือนกัน แถมตัวดันเจี้ยนเองก็มีสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน (เป็นความสามารถดันเจี้ยน)
ตัวอย่างเช่น เราอยู่ในถ้ำที่เต็มไปด้วยพิษ ฉะนั้นตอนที่เราอยู่ในดันเจี้ยนเราจะโดนพิษอยู่ตลอดเวลา
ระบบที่ดีอีกอย่างของเกมนี้คือการที่เราเอาการ์ดมอนสเตอร์ที่เราปราบได้ มาเลือกว่าจะให้เป็นความสามารถพิเศษหรือให้เป็นค่าทักษะติดตัว หรือให้เป็นค่าประสบการณ์เพื่อเพิ่มเลเวลของตัวละครเรา
ภาคนี้เป็นภาคเสริมที่สามารถเล่นได้เลยโดยไม่ต้องมีตัวหลักก็ได้ สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือ ตัวละครใหม่ ดันเจี้ยนใหม่ อุปสรรคใหม่ มอนสเตอร์ใหม่ และระบบใหม่นั้นคือระบบยาพิษและก็อีเว้นท์ซึ่งเราสามารถใส่รวมกับตัวหลักได้เหมือนกัน
เกมนี้ได้รับรางวัลจาก 2017 Golden Geek Best Solo Board Game Nominee
และ2017 Golden Geek Best Board Game Expansion Nominee นั้นหมายความว่าเกมนี้การันตีความสนุกล้นบอร์ดแน่นอน
เกมเล่นได้ 1-2 คน
แนะนำตั้งแต่อายุ 14 ปีขึ้นไป
6. Tiny Epic Galaxies
“เกมยึดดวงดาวที่ต้องแข่งกับ AI ที่เตรียมมาให้หลากหลาย สนุกคุ้มค่ากับเกมกล่องเล็กๆขนาดพกพากล่องนี้ “
จากซีรี่ย์หลายๆเกมของตระกูล Tiny Epic คราวนี้เรามาอยู่ที่อวกาศกันบ้าง มาในขนาดเล็กกระทัดรัดแต่อัดแน่นไปด้วยความมันส์และท้าทายไว้อย่างเต็มเปี่ยม
ในเกมนี้เราได้ย่อกาแล็กซี่ให้เหลือแค่ในกล่องนี้ และเราคือผู้บัญชาการของอาณานิคมหนึ่งในกาแล็กซี่ที่พยายามแข่งขันกันยึดครองดวงดาวเพื่อทรัพยากรที่สำคัญต่อประชากรของดาวเรา และพัฒนาเมืองของเรายิ่งเมืองดีเท่าไหร่ กระสวยของเราก็ยิ่งเยอะ สามารถขึ้นไปได้หลายที่ยิ่งขึ้น ใครที่สามารถยึดดวงดาวได้ 21 คะแนนก่อนเป็นผู้ชนะไป
เรามาพูดถึงระบบตัวเกมนี้กันคร่าวๆ Tiny Epic Galaxies ใช้ระบบทอยลูกเต๋าเลือกแอคชั่นที่เราอยากทำและผู้เล่นคนอื่นสามารถตามแอคชั่นได้หากพวกเขาอยากจะทำเช่นกัน เป็นระบบที่เป็นเอกลักษณ์ของซีรี่ย์ Tiny Epic เลยก็ว่าได้ การ์ดแอคชั่นดวงดาวนี้ก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เหมือนกัน หากได้คอมโบเล่นความสามารถดาว คุณจะได้ทั้งเพิ่มทรัพยากรบางอย่างหรือลดทรัพยากรฝั่งตรงข้ามได้
Solo Mode?
สำหรับโหมดเล่นคนเดียว การเล่นคนเดียวในเกมนี้แตกต่างจากตัวหลักเพียงเล็กน้อย เราจะตะลุยยึดดวงดาวแข่งกับมหาอำนาจใหญ่ สิ่งที่ต่างออกไปคือทุกครั้งที่ฝั่งมหาอำนาจได้รับทรัพยากรมันจะยิ่งทำให้การเล่นของเรายิ่งยากขึ้น ความท้าทายของโหมดนี้คือเมื่อฝั่งมหาอำนาจทอยลูกเต๋าและใช้ลูกเต๋านั้นไม่ได้ ตัวเกมจะให้ทอยใหม่หนึ่งครั้งและนั่นคือนรกของพวกเรา
ตัวเกมเข้าใจง่าย สามารถเรียนรู้และเล่นได้โดยใช้เวลาไม่นาน เหมาะกับคนที่ชอบคิดเยอะนิดหน่อยและอินกับธีมอวกาศ จัดไปเลยกับ Tiny Epic Galaxies จิ๋วแต่แจ๋วจริงๆ นะ
เกมเล่นได้ 1-5 คน
แนะนำสำหรับอายุ 14 ปีขึ้นไป
7. Sagrada
“Sagrada ก็เล่นคนเดียวได้นะ ฝึกทำแต้ม ใช้ความสามารถซึ่งในแต่ละตาก็ไม่เหมือนกัน เล่นจบถ่ายรูปอวดเพื่อนกี่ครั้งก็สวย“
Sagrada เป็นเกมสร้างกระจกในมหาวิหาร ซา-กรา-ด้า ในสเปน ซึ่งอุปกรณ์ภายในเกมนั้นทำออกมาได้ดูดี สวย เลอค่า น่าเก็บสะสม วิธีการเล่นก็แสนเรียบง่าย แค่หยิบลูกเต๋าจากกองกลางคนและนำมาวางที่บอร์ดของตัวเอง โดยมีข้อห้ามคือ
... ห้ามเลขเดียวกันวางติดกัน
... ห้ามสีเดียวกันวางติดกัน
เห็นไหมง่ายนิดเดียวและเรายังสามารถใช้การ์ดเครื่องมือที่เป็นตัวช่วยในการแก้ไขการวางพลาดของเราได้อีกด้วยโดยการจ่ายเหรียญผู้ช่วย สุดท้ายใครที่สามารถวางลูกเต๋าได้ตามการ์ดคะแนนจะได้คะแนนจากการ์ดใบนั้นไป
หลังจากพูดถึงวิธีเล่นแบบปกติไปแล้วเรามาเข้าเรื่องของเรากันดีกว่า ... นั้นคือการเล่นคนเดียว !!
วิธีเล่นนั้นต่างจากวิธีปกติแค่นิดหน่อยตรงที่เรานั้นจะต้องแข่งกับตัวเองเพื่อให้ได้คะแนนที่เยอะที่สุด และบอกไว้ก่อนว่าโหดเอาเรื่องอยู่ ในแต่ละรอบเราจะได้หยิบลูกเต๋าสองลูกจากทั้งหมดสี่ลูกและสองลูกที่ไม่ได้หยิบจะไปอยู่ตรงช่องนับรอบและจุดหน้าเต๋าของลูกเต๋าสองลูกนั้นแหละคือคะแนนที่เราต้องเอาชนะให้ได้
เราสามารถใช้เครื่องมือได้เหมือนปกติ แต่การใช้นั้นเราจะไม่จ่ายด้วยเหรียญผู้ช่วยแต่เป็นการหยิบลูกเต๋าหนึ่งลูกที่นอกเหนือจากสองลูกที่เราหยิบให้ตรงกับสีของการ์ดเครื่องมือนั้นๆ ซึ่งมันช่วยให้คะแนนที่เราต้องสู้นั้นน้อยลงมาด้วย
ใครที่ชอบเกมที่สามารถเล่นคนเดียวก็ได้ เล่นหลายคนก็ดี เกมนี้ควรไปอยู่ในตู้เกมของคุณแน่นอน
เกมเล่นได้ 1-4 คน
แนะนำตั้งแต่อายุ 12 ปีขึ้นไป
แปะลิงค์ในคอมเม้นท์
https://www.youtube.com/watch?v=DtolRYm38tg