Hans im Glück (หมูบินตอนที่ 1)
“ทำไมอุปกรณ์มันดูไม่ premium เลย ไม่สมกับเป็น Anniversary เลยนะ!” 😲
แว๊บแรกเมื่อราว 2 ปีที่แล้วตอนหยิบ Stone Age Anniversary กล่องสีฟ้าๆขึ้นมาพิจารณาดูอุปกรณ์และกำลังอ่านหนังสือกติกาว่ามีอะไรแตกต่างกับเวอร์ชั่นปกติมากน้อยแค่ไหน และรู้สึกผิดหวังนิดหน่อยกับการรอคอยมาหลายปี
พอเริ่มเหลือบไปดูเกมอื่นๆ ที่เป็น Anniversary เหมือนกันที่อยู่ในคอลเล็คชันตัวเอง อย่าง Ticket to Ride 10th Anniversary หรือ Puerto Rico 10th Anniversary อุปกรณ์มันช่างต่างจากภาคปกติ จนแอบสงสัยว่าค่ายนี้คิดอะไรอยู่? 🤔
อีกไม่กี่วันจะมีนัดจะไปพบกับ Moritz Brunnhofer (ลูกชายของ Bernd Brunnhofer ผู้ออกแบบเกม Stone Age) ซึ่งครอบครัวนี้เป็นผู้ก่อตั้งค่ายเกมเก่าแก่ในเยอรมัน Hans im Gluck (ขอเรียกว่า ”หมูบิน” 🐷) เลยลองหาข้อมูลของค่ายนี้ใน Google แต่พอพิมพ์ชื่อก็ดันไปพ้องกับเชนร้านเบอร์เกอร์ของเยอรมันชื่อดังที่มีสาขากระจายกันอยู่ทั่วโลก 😂 เว็บไซต์ของค่ายก็เป็นภาษาเยอรมันซะส่วนใหญ่ มีข้อมูลภาษาอังกฤษน้อยมาก จนทำให้ต้องไปหาใน Boardgamegeek อีกที่ซึ่งก็มีข้อมูลไม่มากนัก รู้เพียงคร่าวๆว่า Hans im Gluck นั้นเป็นค่ายเก่าแก่ที่เริ่มขึ้นเมื่อปี 1983 ก่อตั้งโดย Bernd Brunnhofer และ Karl-Heinz Schmiel โดยมีจุดประสงค์ง่ายๆว่า “Developing Brilliant Games” หรือ “สร้างเกมที่ยอดเยี่ยม”
หลังจากที่เข้า Boardgamegeek หาเกมที่ผลิตโดยค่ายนี้ พบว่า 80% ของเกมค่ายนี้ส่วนตัวเคยเล่นแล้ว และหากคุณเป็นนักเล่นเกมแนวยูโร น่าจะเคยเล่นเกมของค่ายหมูบินนี้ไม่มากก็น้อย เลยประหลาดใจมากว่า ค่ายดังขนาดนี้ทำไมถึงค่อนข้างไม่เป็นที่รู้จัก ก็มาถึงบางอ้อว่า จริง ๆแล้วพวกเรานักเล่นเกมชาวไทย น่าจะรู้จักเกมของค่ายนี้ในอีกค่ายที่ชื่อ Z-MAN ซึ่งรับหน้าที่กระจายสินค้าเวอร์ชั่นอังกฤษไปทั่วโลก แต่หมูบินจะขายในยุโรปเป็นส่วนใหญ่
เกมขึ้นหิ้งของค่ายนี้ที่เด่น ๆก็จะมี
• El Grande ที่ใครที่รักเกมแนว Area Control ต้องลองซักครั้งในชีวิต
• Carcassonne ที่เป็นเกมคลาสสิคตลอดกาล ขายดีที่สุดในค่าย
• Stone Age ที่เป็นเกมสามัญประจำบ้านในเยอรมันไปแล้ว
• The Voyage of Marco Polo ที่หากนึกถึง Dice Worker Placement ก็จะนึกถึงเกมนี้เป็นเกมแรกๆ
ยังมีเกมอื่น อีกมากมายที่น่าจะคุ้นชื่อกันคือ Russian Railroads, Manhattan, Bruges, Finca, GOA, Hawaii
และยังมีผลงานในเวทีรางวัลต่าง ๆมากมายอีกด้วย
• Spiel des Jahres 1991: DRUNTER & DRÜBER – นักออกแบบ Klaus Teuber
• Spiel des Jahres 1994: Manhattan – นักออกแบบ Andreas Seyfarth
• Spiel des Jahres 1996: El Grande – นักออกแบบ Wolfgang Kramer & Richard Ulrich
• Spiel des Jahres 2001: Carcassonne - นักออกแบบ Klaus-Jürgen Wrede
• Deutscher Spiele Preis Best Family/Adult Game Winner 2004: Saint Petersburg – นักออกแบบ Bernd Brunnhofer & Karl-Heinz Schmiel
• Spiel des Jahres 2006: Thurns & Taxis – นักออกแบบ Andreas & Karen Seyfarth
• Kennerspiel des Jahres 2008 Nominee: Stone Age – นักออกแบบ Bernd Brunnhofer (นามปากกา Michael Tummelhofer)
• Kennerspiel des Jahres 2013 Nominee: Bruges – นักออกแบบ Stefan Feld
• Kennerspiel des Jahres 2013 Nominee: The Palace of Carrara – นักออกแบบ Wolfgang Kramer & Michael Kiesling
• Deutscher Spiele Preis Best Family/Adult Game Winner 2014: Russian Railroads – นักออกแบบ Helmut Ohley & Leohard Orgler
• Deutscher Spiele Preis Best Family/Adult Game Winner 2015: The Voyages of Marco Polo - นักออกแบบ Simone Luciani & Daniele Tascini
• Kinderspiel des Jahres: 2016: Stone Age Junior – นักออกแบบ Marco Teubner
ตอนหน้า (ซึ่งจะเป็นตอนสุดท้ายละ) จะมาเล่าให้ฟังถึงวิธีคิดของผู้บริหารของค่าย Hans im Gluck ที่อาจจะทำให้คุณมีมุมมองต่อค่ายเกมในยุโรปเปลี่ยนไป 🔜
Hans im Glück (หมูบินตอนที่ 2)
หลังจากที่ได้เจอ CEO ของค่ายเกมหมูบินนี้อยู่หลายครั้งทำให้รู้ว่า เขาเป็นคนสบายๆ แต่ก็เป็นคนสุดโต่งในแง่ของ “ความรักโลก” อย่างไม่น่าเชื่อ🌏 ตัวอย่างเช่น เขาขี่จักรยานไปทำงานแทบทุกวันเว้นวันฝนตก เพราะอยากจะลด CO2 ในชั้นบรรยากาศ หรือตอนมากรุงเทพจะหาซื้อของฝากให้แม่เป็นตุ๊กตาช้างแกะสลัก แต่งาช้างทำจากวัสดุที่เป็นพลาสติค ก็เลยเปลี่ยนใจไม่ซื้อ เพราะพลาสติกย่อยสลายยาก
ขณะที่นั่งคุยกันในร้านอาหาร Moritz Brunnhofer ก็พูดถึงนโยบายของค่ายหมูบินว่า เกมที่ผลิตจากค่ายของเขาจะผลิตในเยอรมันเป็นส่วนใหญ่เพราะสามารถคุมการใช้วัตถุดิบได้ตั้งแต่ต้นทาง และจะไม่มีพลาสติกเป็นส่วนประกอบในเกมอยู่เลย อีกทั้งยังต้องควบคุมปริมาณในแต่ละ print run ให้เหมาะสมเพื่อไม่ให้เกมเหลือมากเกินไปในตลาด การจะพิมพ์ใหม่แต่ละรอบจะคำนึงถึงความต้องการของนักเล่นทั่วโลกและใช้เวลาวัดผลเป็นปี 👨💼เวลาพูดถึงเรื่องปัญหาโลกร้อนหรืออะไรที่เป็นประเด็นสิทธิมนุษย์ ตาจะมีความเป็นประกาย (แม้ตอนกำลังจิบเบียร์อยู่ก็ตาม😂) บริษัทจะมีนโยบายการบริจาคเงินให้กับองค์กรที่เกี่ยวกับสิทธิมนุษย์และช่วยธรรมชาติอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งมาจากความชอบส่วนตัวของครอบครัว
การเจอกับ Moritz แม้เพียงไม่กี่วัน ทำให้เปลี่ยนทัศนคติที่มีกับค่ายในยุโรปหลายๆค่ายไปอย่างมากมาย จากที่เคยคิดว่าค่ายเชยๆที่ไม่ยอมปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัยของการระดมทุนอย่าง Kickstarter เป็นความเข้าในวัฒนธรรมขององค์กรที่แข็งแกร่งถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้ส่วนตัวคิดว่า CEO อายุ 30 ต้นๆคนนี้ คงจะนำพาหมูบินไปไกลอย่างแน่นอน
เรายังคงติดต่อกับ Moritz ตลอด คุยเรื่องเกม เรื่องงานแข่ง เรื่องท่องเที่ยว เรื่องของกิน และอื่นๆ และได้กลายมาเป็นเพื่อนต่างชาติที่คุยกันบ่อยอีกคนหนึ่ง และลานละเล่นก็ได้ทำสัญญาเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจกับค่ายหมูบิน ซึ่งเราดีใจมากกว่าที่คิดไว้ในตอนแรกซะอีก 🤩
ในทุก ๆเกมที่ทางลานละเล่นขอลิขสิทธิ์อาจจะมาด้วยเหตุผลแตกต่างกัน บางเกมก็เป็นทางธุรกิจ เรื่องความขาดแคลนของตัวเกม เรื่องความยากของการนำเข้ามา เรื่องความชอบส่วนตัว แต่กับ Stone Age มันกลับต่างออกไป แน่นอนมันเป็นเกมที่เราชอบโดยพื้นฐาน แต่เมื่อคิดถึงเรื่องราวความเป็นมาของตัวเกมที่ถูกเล่าผ่านลูกชายของนักออกแบบ และความสัมพันธ์ที่มี มันทำให้การได้สิทธิ์ครั้งนี้พิเศษกว่าครั้งอื่น ๆ
แน่นอนว่าธุรกิจจำเป็นต้องมีกำไร แต่หากลดกำไรลงหน่อย แลกกับการเบียดเบียนโลกน้อยลง และยังทำงานที่ตัวเองรักต่อไปได้ ก็เป็นความรู้สึกที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว!
You’ll never walk alone!
ไม่ใช่แฟนหงส์แดงแต่อย่างใด แต่เป็นการทำพันธมิตรของลานละเล่นกับ Hans im Glück ที่เราจะโปรโมทเกมต่าง ๆที่ออกมาแล้วและกำลังจะออกต่อไปในอนาคตของค่ายหมูบิน โดยทางค่ายให้จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ในแง่ของ Promo Card และการให้ความรู้ในงานบอร์ดเกมต่าง ๆ (ไม่แน่ว่าอีกหน่อยอาจจะมีเกมไทยไปโผล่ในค่ายนี้ก็เป็นได้) สำหรับเราถือเป็นก้าวที่แปลกใหม่และสำคัญที่พยายามจะทำเพื่อวงการบอร์ดเกมในประเทศ และลานละเล่นหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการตอบรับที่อบอุ่น
แต่ตอนนี้เราขอนำเสนอ...แต่น แตน แต๊นนนนน โปรเจคต่อมาที่เราทำ เอาใจทั้งขาคลาสสิค และขาโหดนั่นคือ...
Carcassonne 20th Anniversary และ Ultimate Railroads
ซึ่งรอติดตามเวอร์ชั่นภาษาไทยได้ เร็วๆนี้